จะสะอาดไปถึงหนาย....ไหน...................
คุณแม่บ้านทั้งหลาย.......(^v^)
มักจะ เรียกร้องเอาแต่สารเคมีขัดส้วม น้ำยาถูพื้น สเปรย์ฆ่าแมลง น้ำยารีดผ้าเรียบ น้ำยาฟอกขาว
ฯลฯ อีกสารพัดน้ำยา เพราะอยากให้บ้านสะอาดสุดๆ ขาวสุดๆ(^v^) เพื่อครอบครัว.....
เรา......รู้ว่าสารเคมีสังคราะห์ ที่ทำความสะอาด แรงๆ ทั้งหลาย มันไม่ดี (^v^)
ทั้งต่อตัวเราและสิ่งแวดล้อม (-^〇^-)
(-^〇^-)แต่ไม่รู้จะอธิบายให้คุณแม่บ้านฟังยังไงดีคะ เพราะประสบการณ์ที่เราทำเครื่องสำอางค์ มานับสิบปี
รู้เลยว่า เพื่อผลกำไร ทุกคนพร้อมจะให้ทำให้คุณเชื่อว่าความขาว คือ สะอาด คือสุดยอด แห่งความปลอดภัย
โดยเฉพาะในยุคโรคระบาดเช่นนี้ (´;ω;`)
เขียนบทความนี้เหมือนสวนกระแส(´;ω;`)
แต่ ...แค่อยากชี้ให้เห็นในอีกมุมนึง (^v^)
ถ้ายังไม่พร้อมรับ ก็กดออกเลยค่ะ (^v^)
เพราะเราจะเริ่มล้างสมอง คุณให้เลิก สะอาดจนเกินเหตุ หรือขาวว้อก ขาววิ้งง
\(^o^)/\(^o^)/\(^o^)/
ไม่เฉพาะแต่คุณแม่บ้านมืออาชีพ เท่านั้น ที่อยากได้ความขาวสะอาด
แต่คุณแม่บ้านคุณนาย ....ผู้เป็นเจ้าของบ้านอีกมากมายด้วยที่อยากให้บ้าน
“สะอาด” ชนิดที่เรียกว่า
“สะอาดสูงสุดเปรียบประดุจโรงพยาบาล”
จะถูพื้น >ก็ต้องไม่เหลือฝุ่น (-^〇^-)
จะเช็ดกระจก >ก็ต้องให้ใสแจ๋ว(-^〇^-)
จะล้างส้วม >ก็ต้องให้เงาวิ้งๆ พร้อมหอมฉุย(-^〇^-)
จะรีดผ้า >ก็ต้องเรียบกริ๊บ& หอมฉุย (-^〇^-)
จะเช็ดเตาแก๊ส > ก็ต้องไม่ให้เหลือคราบเลย...แม้แต่น้อย
อาจเป็นเพราะว่า
ถ้าทำได้ดังนั้นแล้ว จะเกิดความสุขส่วนตนและ
\(^o^)/ได้รับคำชมจากพ่อบ้านลูกบ้าน
\(^o^)/โดยเฉพาะบ้านสมัยใหม่จัดแต่งสวยเก๋
\(^o^)/ โทนขาวๆ มักจะต้องคงความ ขาวไว้ให้แขกไปใครมาชื่นชม
ความขาว ....สะอาด+หอมจึงเป็นอุดมการณ์สูงสุดสำหรับคุณแม่บ้านมากมายในโลกปัจจุบัน
ว่าแต่ว่า สะอาดคือสะอาดจากอะไรเหรอ
สะอาดจากขี้ดินขี้โคลน จากคราบน้ำมัน จากฝุ่นละออง จากเชื้อโรค ก็มีตั้งหลายเกรด เหมารวมๆ เอาเป็นว่า ถ้า “สะอาด” แล้ว ก็คงหมายความว่า “ปลอดภัย-ปลอดจากโรค” นั่นเอง
แต่ในโลกนี้ เหรียญมี 2 ด้านเสมอ(=^ェ^=)
มีทั้งสิ่งที่มองเห็น และ มองไม่ เห็น
ความสะอาดก็ไม่ได้หมายถึง........ความปลอดภัยเสมอไป (^-^;
เราจะแน่ใจได้ยังไงล่ะว่า เมื่อเรากระหน่ำใช้สารเคมีเพื่อทำความสะอาดแล้ว
เราจะสะอาด-ปลอดภัย-ปลอดโรค (^-^;
สารเคมีทั้งหลายล้วนส่งผลต่อมนุษย์เสมอ (^-^;
คำถามก็คือเมื่อเราสัมผัส "สารเคมี"อยู่ตลอดเวลาแล้ว ?
(^-^; ระบบภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้
(^-^; การเผาผลาญอาหาร ไม่ย่อย
(^-^;ทางเดินอาหาร ขับถ่าย
(^-^;ทางเดินหายใจ หอบหืด ฯลฯ
(^-^;จะทนพิษสารเคมีได้อย่างไร ก็แสดงออกมาในรูปเนื้อร้าย มะเร็ง
แต่ในเมื่อ
โฆษณาทีวีบอกว่าเชื้อโรคน่ากลัวโหดร้าย (^-^;
ต้องฆ่าให้ตายให้หมด x.x.x.x.x.x.ด้วยผลิตภัณฑ์โน่นนี่นั่น
เป็นใครก็ต้องหวั่นไหว.x.x.x
.x.x.xก็กดทุกช่องก็มีแต่แนวนี้ทั้งนั้น .x.x.x
แทบทุกอย่างต้อง “แอนตี้แบคทีเรีย”.x.x.x
ตั้งแต่เครื่องปรับอากาศ.x.x.x ยาถูพื้น สบู่ ผงซักฟอก.x.x.x
แต่คำถามก็คือ.x.x.x ยาฆ่าแบคทีเรียมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด
.x.x.x (หรือทำให้เราปลอดโรคได้จริงมากแค่ไหน)
x.x.x.x. เมื่อเทียบกับว่ามันอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวและทำให้เด็กๆ x.x.x.x.
เสี่ยงเป็นหอบหืด หรือ ภูมิแพ้ ......มากขึ้นไปอีก (^-^;
ในอเมริกา ดินแดนแห่งข้อมูล และการเปิดโปงได้เคยรวบรวมประมาณเอาไว้ว่า มนุษย์สัมผัสกับสารเคมีถึง..........12,000 ชนิด..........ที่ใช้ภายในบ้าน ตั้งแต่

( /^^) /ยาสีฟัน แชมพู ครีมนวด สบู่ โลชั่น ผงซักฟอก น้ำยารีดผ้าเรียบ สารเคมีขัดส้วม ขัดเตาแก๊ส เช็ดกระจก สเปรย์ทำความสะอาด น้ำยาเช็ดหน้าจอคอมฯ สเปรย์ดับกลิ่น สเปรย์กลิ่นหอม สีทาบ้าน และอื่นๆ\(^^\)
(>_<) แทบทุกอย่างอยู่ทุกห้องทุกหนแห่งในบ้านที่เราพยายามจะให้มันสะอาดจากฝุ่นและสิ่งสกปรกทั้งหลาย พร้อมกลิ่นน้ำหอมเคมี
(>_<) ถ้าเราใช้สารเคมีพวกนี้แค่ "ปีละอย่าง" อย่างคงไม่เป็นไร แต่...เราใช้พวกนี้ "วันละ 12 ตัว++

สารพัดน้ำยา ทั้งหมดนี้ มีแค่ 20 % เท่านั้นที่มีการทดสอบว่าไม่เป็นอันตราย ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
(・_・) สารเคมีในผลิตภัณฑ์จำนวนมากเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตจากปิโตรเลียม (=หมุนเวียนกลับมาใช้อีกไม่ได้) และมันมีเป็น หมื่นๆตัว แต่ตัวที่โดน FDA แบนนั้น มีแค่หลักสิบตัวต่อปี หมื่นๆ ตัวนั้น แน่นอน สารก่อมะเร็งฯ
(・_・) ตอนใช้ก็สะสมในตัวเราแล้ว แถมในขั้นการสกัด กลั่น และขนส่งใช้พลังงานมหาศาลและก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและน้ำ ค่าที่สารสังเคราะห์ส่วนมากไม่ย่อยสลาย จึงสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อม
(・_・) กลิ่นหอมจาก น้ำยาเหล่านั้น คือสารเคมีสังเคราะห์ตัวหนึ่งที่แค่เลียนแบบ กลิ่นธรรมชาติ บางตัวไม่ใช่แค่สะสม สารก่อมะเร็ง แต่มันยังทำให้เซ็กส์เสื่อม (กระทบระบบสืบพันธ์)
(・_・)(・_・)(・_・)(・_・)(・_・)
(>_<)ไม่ใช่แค่สารเคมี ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดอื่นๆ
(>_<) มันยังรวมถึงเครื่องสำอางค์ ที่โชลมบนผิวโดยตรง
(>_<) ยังมีสารเคมีที่ละลายออกมาจากบรรจุภัณฑ์
(>_<) เมื่อใช้หมดก็ก่อขยะมากมายมหาศาล
(*≧∇≦*) ในทวีปอเมริกาเหนือ ถ้าหากเอากระดาษทิชชูที่ซื้อขายเมื่อปีก่อนใส่รถเทรลเลอร์ 18 ล้อ จะต้องใช้รถมากมายถึง 9 พันคัน จอดเรียงต่อกันไกลถึง 110 กิโลเมตร เพื่อบรรทุกระดาษทั้งหมด 83,000 ตัน 1 ใน 3 ของกระดาษพวกนี้ใช้เพื่อทำความสะอาดในครัวเรือน เช่น เช็ดฝุ่น เช็ดพื้น หน้าต่าง และโต๊ะในครัว (*≧∇≦*)
(* -_・)oO○ ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่มักบอกว่า ถ้าเด็กสกปรกหน่อยๆ ก็จะแข็งแรง ซึ่งมันก็คงจะจริงสำหรับคนที่ผ่านประสบการณ์มากหน่อย แต่สำหรับ แม่บ้านยุคใหม่ อาจไม่เชื่อ ?
(* -_・)oO○ แต่อย่าลืมนะปู่ย่าตาทวดบรรพบุรุษมนุษย์ก็วิวัฒนาการจากลิงไม่มีหางทั้งที่ก็อยู่อย่างคลุกดินคลุกทรายกันมา ก็ยังไม่มีโรคอุบัติใหม่เหล่านี้ ภูมิแพ้ มะเร็ง หอบหืด
(* -_・)oO○ แม่บ้านยุคใหม่ ถ้าสืบค้นข้อมูลเมืองนอก จะเห็นทิศทางของความเชื่อนี้มากขึ้น ในหมู่คนตะวันตก
(* -_・)oO○เดือนเมษายนที่ผ่านมา (2011) หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ของสหราชอาณาจักรรายงานว่า นิสัยหมกมุ่นกับการทำความสะอาดของมนุษย์สมัยใหม่ มีความสัมพันธ์กับอาการซึมเศร้า
เพราะการกำจัดแบคทีเรียกับไวรัสออกไปมีแต่จะทำให้
"ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์เราอ่อนแอลง" immunity system
แถมยังส่งผลถึงการทำงานของสมองเราด้วย - นักวิทยาศาสตร์คิดว่าเป็นอย่างนั้น
(* -_・)oO○ตั้งนานนมแล้วที่นักวิทยาศาสตร์ไม่เห็นด้วยกับการทำความสะอาดแบบเว่อร์เกินเหตุ
.......เพราะมันยิ่งทำให้มนุษย์เป็นหอบหืดและภูมิแพ้มากยิ่งขึ้น เพราะ
.....(* -_・)oO○
แบคทีเรียบางชนิดทำให้......ระบบภูมิคุ้มกันของเราเข้มแข็งขึ้น......ด้วยซ้ำ (mycobacterium vaccae)
และถ้าไม่มีมัน ร่างกายของเราก็จะแสดงปฏิกิริยาต่อฝุ่นและเกสรดอกไม้เกินเหตุ กลายเป็นโรคภูมิแพ้ ได้ง่ายขึ้น
(* -_・)oO○ ตอนนี้นักวิจัยเชื่อด้วยว่าปฏิกิริยาโต้ตอบเกินเหตุของร่างกาย
ทำให้สมองเราไม่อาจผลิตสารเคมีที่ทำให้เรามีความสุข (เซโรโทนิน serotonin) ออกมาได้
– ทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งคนตะวันตกเป็นมากกว่าประเทศยากจนมากมายนัก
เพราะระบบภูมิคุ้มกันไม่ได้ถูกฝึกให้รับมือกับแบคทีเรีย
(* -_・)oO○ (1 ใน 10 ของคนสหราชอาณาจักรเป็นโรคซึมเศร้า ในขณะที่คนไนจีเรีย 100 คนจะเป็นโรคนี้ 1 คน)
(・_・)(・_・)(・_・)(・_・)(・_・)
(>_<) (>_<) คนรุ่นใหม่กลัวความสกปรก (จึงถนัดใช้ของใช้แล้วทิ้ง)
(>_<) (>_<)ชอบความทันใจ (จึงเลือกสินค้าที่ให้ผลทันใจ)
(>_<) (>_<)และไม่ต้องลงแรง (ซื้อเอาสะดวกกว่า)
(>_<) (>_<)และการจะลด-ละ-เลิกความหมกมุ่นเรื่องความสะอาดได้
. . . . ก็ขึ้นอยู่กับความคาดหวังต่อความสะอาด . . .
– เราต้องทำให้ทุกอย่างสะอาดไปไหนกันหรือ -
x ๐ xในเมื่อความสะอาดอาจเป็นคนละเรื่องกับ x ๐ x ความปลอดภัยแล้ว x ๐ x
x ๐ x คุณแม่บ้านอาจเริ่มต้นด้วยการลดใช้สารเคมีและสารพิษในการทำความสะอาด
x ๐ x และหาเคล็ดลับการทำความสะอาดด้วยของในตู้กับข้าวอย่าง
x ๐ x น้ำส้มสายชู น้ำอุ่น มะนาว และโซดาไฟ x ๐ x
( /^^) /ถ้าหากยังตัดใจเลิกใช้น้ำยาและสารเคมีทั้งหลายไม่ได้\(^^\)
ก็ควรใช้อย่างระมัดระวัง ยิ่งใช้หลายอย่าง
โอกาสที่ร่างกายเราจะสัมผัสกับสารเคมีก็มีมากขึ้น เช่นเรื่องเล็กๆ อย่างสบู่ล้างมือ
( /^^) / องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ\(^^\)
พบว่าสบู่ฆ่าเชื้อโรคและสบู่ล้างมือไม่ได้ทำให้มือสะอาดไปกว่าสบู่ธรรมดาและเป็นของที่ควรหลีกเลี่ยง
ref: greenpeace,org / action.storyofstuff,org / the blue zone
เดี๋ยวนี้ในท้องตลาดบ้านเราก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
จำหน่ายแล้ว ( /^^) / เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ ซํกล้างของ "แอลจี aLGy "
ที่ทำจาก( /^^) / น้ำหมักมะกรูดสด จากวังน้ำเขียว ที่เราปลูกเองออแกนิค หมักจนได้ กรดแลคติค
( /^^) /
(=^ェ^=) ซึ่งผ่านงานวิจัยจาก ITAB แล้วว่ามันเป็นจุลินทรีย์ ตัวดี ที่ได้จากการหมักจากธรรมชาติ
(=^ェ^=) ซึ่งปลอดภัยกว่าสารสกัดมากมาย
(=^ェ^=) ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ต่อผิวของคุณที่ต้องสัมผัสมันทุกวัน
(=^ェ^=) แถมย่อยสลายได้ในธรรมชาติอีก
เลือกสินค้าทันทีกด >>>

ลูกค้าใหม่...รับส่วนลดเพิ่มทันที 50 บาท!! (กรอกโค้ด 0050)
(=^ェ^=)(=^ェ^=)(=^ェ^=)(=^ェ^=)
หรือแม้แต่เครื่องสำอางค์ ที่ต้องใช้บนหน้าเรา
(=^ェ^=)ก็ไม่ยอม ใส่สาร4 สารที่ ต้องห้ามนำเข้าจาก
(=^ェ^=)กรมอุทยาน เพราะทำให้ประการังฟอกขาว
(=^ェ^=)จึงไม่นำสารนั้นมาฟอกหน้าคุณให้ขาว แต่ต้องสะสมสารพิษด้วย
(=^ェ^=)แต่ขาวจาก การสะท้อนแสงของกันแดดกึ่งกายภาพ
(=^ェ^=) รุ่นที่ขายดีสุดของเรา
(=^ェ^=)พร้อมบรรจุในขวดแก้ว ปลอดภัย ไม่ต้องรับสารตกค้างจากหลอดพลาสติก
กดอ่านต่อ ทำไมต้องขวดแก้ว>>>สาร BPA จากขวดพลาสติก...
ทักทันที เป็นเพื่อนกันกด เพื่อรับข่าวสารสุขภาพ >>>

@COOLLiving