ตำนานทะนะบะตะ 七夕 เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันกับคนรัก มันมีค่ายิ่งนัก
เมื่อนานมาแล้วที่ฝั่งทิศเหนือของแม่น้ำอะมะโนะกะวะ
(天 の 川)
หรือเข้าใจง่ายๆคือ “ทางช้างเผือกบนสรวงสวรรค์” นั่นเอง
มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีรูปโฉมงดงาม ขยันขันแข็งในการทำงาน มีชื่อว่า “โอริฮิเมะ” เป็นลูกสาวของเทพเจ้าผู้ครองสวรรค์ งานของนางก็คือการทอผ้า
七夕 七夕 七夕 七夕 七夕
“โอริฮิเมะ” นั้นทอผ้าได้สวยงามและมีความประณีตบรรจงเป็นอย่างมาก ทำให้ผ้าของนางเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าทวยเทพทั้งหลาย นางจึงจำเป็นต้องทอผ้าตลอดวันตลอดคืนเพื่อให้ได้จำนวนผ้าที่มากพอกับความต้องการของเทพทั้งหลาย เมื่อเทพผู้เป็นบิดาได้รับทราบจึงรู้สึกเป็นห่วงและต้องการให้นางมีคู่ครองสักที เพื่อที่จะได้มีคนคอยดูแลบุตรสาวของตน
ด้วยเหตุนี้ เทพผู้เป็นบิดาจึงทำการประกาศหาคู่ให้กับโอริฮิเมะ ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่พ่ออยากให้เป็น
โอริฮิเมะได้ตกลงปลงใจกับชายหนุ่มที่มีชื่อว่า
七夕 七夕 七夕 七夕 七夕
“ฮิโกโบชิ” คนเลี้ยงวัว อยู่ฝั่งด้านใต้ของทางช้างเผือก
“ฮิโกโบชิ” ชายหนุ่มร่างกำยำ สง่างามและขยันขันแข็งในการทำงานไม่แพ้โอริฮิเมะเลย แต่เมื่อทั้งสองได้แต่งงานกัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ความรัก ความสุขทำให้ทั้งสองเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน หลังจากการแต่งงานทั้งคู่ไม่ได้สนใจหน้าที่ของตนเอง ทำให้เทพผู้เป็นบิดาโกรธและลงโทษให้ทั้งสองต้องแยกจากกันไปอยู่ที่คนละด้านของทางช้างเผือก โอริฮิเมะโศกเศร้าที่ต้องถูกแยกจากชายผู้เป็นที่รัก ทำให้เทพผู้เป็นบิดาเกิดความสงสาร จึงได้เปลี่ยนใจ ยอมให้ทั้งสองข้ามทางช้างเผือกมาพบกันได้เพียง 1 วัน ในรอบ 1 ปี เท่านั้น นั่นก็คือวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปีนั่นเอง 七夕
ทั้งสองกลับมาตั้งใจทำงานเหมือนเดิมและอยู่ได้ด้วยความหวังที่ว่าจะได้พบกันในปีถัดไป ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ในหนึ่งปีก็ตามมีความเชื่อว่าการที่ทางช้างเผือกเด่นชัดขึ้นมาบนท้องฟ้านั่นก็คือช่วงเวลาที่โอริฮิเมะและฮิโกโบชิได้มาพบกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตำนานความรักของเจ้าหญิงทอผ้า “โอริฮิเมะ” และชายเลี้ยงวัว “ฮิโกโบชิ” ก่อกำเนิดเป็น “วันทะนะบะตะ” ที่ผู้คนจะเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษหลากสี และนำไปผูกไว้กับกิ่งไผ่นั่นเอง
วันที่ 7 กรกฎาคม คือวันแห่งเทศกาล “ทะนะบะตะ (Tanabata)” ซึ่งเป็นเทศกาลตามฤดูกาลของญี่ปุ่นที่มีมาแต่โบราณ ในวันเทศกาลทะนะบะตะ ผู้คนจะเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆ หลากสี ที่เรียกว่า “ทังซะกุ (Tanzaku)” แล้วนำไปแขวนไว้กับกิ่งไผ่เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาว ซึ่งกิ่งไผ่นี้ชาวญี่ปุ่นเชื่อถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้
七夕
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันนั้น แสนมีค่า
แต่เราก็ควรดำรงค์ ตนในทางสายกลาง
คือไม่ห่างกันเกินไป หรือไม่ ทุ่มเทเวลาทั้งหมด
จนทำให้ ส่วนอื่นของชีวิต บกพร่องไป
รักษาสมดุลย์ ให้ดี ระหว่าง หน้าที่การงาน และ
หน้าที่กับครอบครัว
เช่นเดียวกันกับ การดูแลสุขภาพ
กินมาก เกิน ก็ไม่ดี
นอนมาก เกิน ก็ไม่ดี
นอนพอดี สัก 8 ชม.
แต่ถ้ามีปัญหา นอนไม่พอ
นอนไม่หลับ นอนไม่สนิท นอนไม่เครียส นอนไม่ไหล
*ยืนยันคุณภาพ ด้วย ยอดขายมากว่า 20ปี กว่า 4 แสนใบทั้งในไทย และส่งออกต่างประเทศ
โปรครบรอบ24ปี (1ฟรี1)
เลือกสินค้าทันทีกด >>>
ลูกค้าใหม่...รับส่วนลดเพิ่มทันที 50 บาท!! (กรอกโค้ด 0050)
ทักทันที เป็นเพื่อนกันกด เพื่อรับข่าวสารสุขภาพ >>>
@coolliving
#หมอนร้อยปี #หมอนบัควีท #หมอนเปลือกโซบะ #หมอนเปลือกข้าว #หมอนแก้กรน #หมอนแก้ปวด #หมอนลดปวดคอ #หมอนเพื่อสุขภาพ #buckwheatpillow #หมอนสุขภาพ #หมอน #หมอนที่ทุกบ้านต้องมี #หมอนขนเป็ด #หมอนเมมโมรี่โฟม #ปวดคอ #แก้ปวดคอ #เมื่อย #ปวดหลัง #Pillow